13 February 2006

Dragons



ได้มีโอกาสดูสารคดี Dragons : A Fantasy Made Real เป็นสารคดีที่ไม่ใช่สารคดีแต่เป็นเหมือนนำจินตนาการเข้ามาผสมปนเปกับหลักการทางวิทยาศาสตร์ที่มาคิดทีหลังแล้วไม่ค่อยน่าเชื่อเท่าไหร่ แต่ก็ออกมา้ดีพอสมควร จุดเริ่มของเรื่องน่าจะเป็นเหมือนกับที่ใครหลายต่อหลายคนคิด
ทำไมมังกรถึงมีอยู่ในตำนานของกลุ่มคนหลากเชื้อชาติทั่วโลก ทั้งๆที่ในอดีตกาลเราต่างมิเคยได้เยื้องกรายทักทายกัน

ผมว่ามันน่าสงสัยพอๆกับที่ว่าเราเป็นสิ่งมีชีวิตอันมีอารยธรรมเดียวในจักรวาลนี้หรือนั่นแหละ

หลังจากได้รู้จักมังกรผ่านบทบาทเดิมๆที่เจอกันอย่างคุ้นเคยในบทหัวหน้าใหญ่ตามเกมต่างๆ นี่ก็เป็นโอกาสอันดีที่จะได้เห็นมังกรในรูปแบบบันเทิงคดี ซึ่งมันก็สนุกดีทีเดียวที่ได้เห็นจินตนาการที่พรั่งพูนออกมาจากความคิดเริ่มต้นหนึ่งจุดและแตกต่อไปอีกหลายจุด ทำให้จุดเล็กๆเริ่มรวมกันกลายเป็นจุดใหญ่ จนบางครั้งดูเหมือนเป็นการหลอกลวงที่พยายามจะเติมเรื่องราวให้สมบูรณ์ยิ่งขึ้นๆ แต่เรื่องทุกเรื่องก็เริ่มจากหลอกหลวงในตอนแรกทั้งนั้น และก็ต้องไม่ลืมว่าบางเรื่องหลอกลวงก็นำพาไปถึงจุดสุดท้ายด้วยเช่นกัน

เป็นไปตามวิวัฒนาการที่สร้างความสมดุลย์ให้กับโลก สัตว์ขนาดใหญ่พากันสูญพันธุ์ไปเรื่อย สุดยอดสัตว์โลกแสนแข็งแกร่งอย่างมังกรเองก็เช่นกัน พวกมันพากันเหลือน้อยลงๆเรื่อย แถมโดนสัตว์โลกอ่อนแอแต่เจ้าเล่ห์อย่างเราตามล่าพวกมันก็พากันล่าถอยหลบหนีซ่อนตัวอยู่ในสถานที่ห่างไกลมากขึ้นเรื่อยๆ

ตัวเมียตัวหนึ่งอยู่อย่างอ้างว้าง เมื่อถึงฤดูผสมพันธุ์มันก็ออกมาร้องเรียกหาตัวผู้ซึ่งไม่รู้ว่าอยู่ที่ไหนของโลก มันทำได้แต่เฝ้ารอ หากไร้มังกรตัวผู้ย่างกราย มันคงต้องอ้างวางเดียวดายที่สุดขอบโลกต่อไป

โลกยังไม่โหดร้ายกับมังกรตัวนี้เกินไปนัก หลังจากเฝ้ารอจนแทบหมดหวัง มังกรตัวผู้ก็บินโฉบมาปรากฎกายต่อหน้าตัวเมีย "เรามาร่วมรักกันเถอะ"

แม้จะแอบหลับไปบางช่วงเพราะโฆษณาเยอะแถมโฆษณาเหมือนเดิมทุกพัก ก็มาถึงฉากผสมพันธุ์ที่รอคอย

โปรดอย่าเพิ่งเข้าใจกันผิดไป

การร่วมรักของมังกรช่างสวยงาม มันทั้งคู่พากันบินกอดเกี่ยวขึ้นสูงก่อนทิ้งตัวหมุนวนประหนึ่งเต้นรำ มันคงอยากเต้นรำแบบนี้ตลอดกาล หากแต่โลกนี้ยังมีพื้นดินและแรงดึงดูด ก่อนจะพากันดับสูญจากโลก มันทั้งคู่ก็ผละจากกันพ่นไฟเสียหนึ่งที ประกาศถึงความสำเร็จของการผสมพันธุ์ เหล่ามังกรจะได้มีโอกาสออกลูกหลานมาช่วยกันสืบพันธุ์ต่อไปแล้ว

แต่ทุกวันนี้เราก็ยังไม่เคยเห็นพวกมันออกมาโลดแล่นโชว์ตัว โลกนี้อาจจะยากลำบากเกินกว่าที่พวกมันจะอยู่ได้แล้ว ส่วนหนึ่งอาจเป็นเพราสัญชาตสัญญาณสัตว์ป่าที่ต่อสู้ักันเอง แต่ปัจจัยที่สำคัญคงเป็นเพราะมนุษย์กลายเป็นสิ่งมีชีวิตบนสุดของห่วงโซ่อาหารที่ล่าทุกอย่าง จนแม้แต่สัตว์สุดแข็งแกร่งอย่างมังกรก็มิอาจต้านทาน

1 comment:

Anonymous said...

humans need imagination... i guess for me dragon is a part of the result of imagination
but who knows, it might be something more ^^

ps. you have a nice blog,