18 May 2006

Summer...It*S Gone

Sun...It's gone

เพราะตึกที่ใช้เวลาอยู่ช่วงกลางวันออกแบบมาให้เฉยชากับกับสิ่งแวดล้อมภายนอก เมื่อวานตอนเย็นกว่าจะรู้ตัวว่าฝนตกไปหนักขนาดไหนแล้ว ก็ต้องรอให้ลงมาถึงชั้นล่างเสียก่อน ท่าทางฝนคงจะตกลงมานานพอควร ดูได้จากน้ำที่เจิ่งนองตามพื้น ตึกที่ดูเหมือนว่ามีการออกแบบก่อสร้างมาอย่างดี ก็มักจะแสดงคุณภาพที่แท้จริงกันตอนนี้ ลมพัดพาอากาศเย็นฉ่ำชุ่มชื้นมากระแทกกายซ้ำอีกทีสองที เป็นสัญญาณสำหรับผมว่าฤดูฝนเริ่มขึ้นอย่างเป็นทางการแล้ว

ฝนที่ตกยาวนานในกรุงเทพเหมือนเป็นสัญญาณสำคัญ ให้รถแท๊กซี่ที่เคยเกลื่อนกลาดพากันหลบซ่อนตัวอย่างมิดชิด ผมเลยตัดสินใจพาตัวไหลเป็นตามเส้นทางขนส่งหลักต่างๆแทน ผู้คนยืนหลบฝนตามที่ต่างๆด้วยอารมณ์ข้างในที่ร้อนรุ่ม ขัดกับอากาศภายนอกโดยสิ้นเชิง

หลังจากผ่านเส้นทางเฉอะแฉะไปได้ด้วยวิธีการหลายหลาก ตัวช่วยทั้งหลายก็หมดลงตอนใกล้จะไปถึงที่หมาย เลยได้แต่กางร่มคันเล็กๆเดินฝ่าสายฝนเข้าไปแบบสิ้นคิด ถึงร่มคันนึงจะช่วยกันฝนอะไรไม่ได้มากมาตั้งแต่มันถูกคิดค้น แต่ก็ยังพอจะคุ้มหัวให้ผมพอจะฟังเพลงให้ใจครึกครื้นได้บ้าง เดินไปได้พักหนึ่งก็ลองมองไปรอบตัวแต่ก็ไม่พบเจอผู้ใด คงมีแต่คนสิ้นคิดเท่านั้นที่มาเดินลุยกลางฝนแบบนี้ แต่ถึงตรงนี้แล้วก็ดูจะไม่เหลือทางเลือกอะไรอีกต่อไป ก็ได้แต่จำทนเดินฝ่าสายฝนต่อไปแบบเดียวดาย

อวัยวะหลักหนึ่งเดียวที่เหลือว่างอยู่ของตัวผมตอนนี้ก็มีแต่ปากเท่านั้น เพื่อเป็นการปลอบใจอวัยวะส่วนอื่นที่กำลังทำงานอย่างหนัก ผมเลยแหกปากร้องเพลงแบบไม่เกรงใจผู้คน ด้วยเข้าใจว่าฝนที่ตกหนักอยู่ตอนนี้คงกลบเสียงน่าอายของตัวผมได้เป็นอย่างดี

ถึงที่หมายแล้ว ผมไม่แน่ใจว่าถ้าฝนไม่ได้ทำท่าจะเบาลงแล้ว ผมจะยืนร้องให้มันจบเพลงก่อนรึเปล่า

ผมจัดการรีดน้ำออกจากตัวและสิ่งของรอบกาย ของบางอย่างในกระเป๋าผมได้รับผลกระทบไปเล็กน้อย ผมคิดหาทางกู้กลับมาอยู่หลายวิธี มารู้เอาทีหลังว่ามันไม่ได้มีความสำคัญอะไรอีกต่อไปแล้ว

ไม่แน่ใจว่าผมได้ไปโชว์ลีลานักร้องต่อในฝันรึเปล่า รู้แต่ว่าคืนนั้นผมหลับไปแบบไม่ทันรู้ตัว

.

ตื่นเช้ามาเจอเรื่องน่าผิดหวังครั้งใหญ่แบบไม่ทันตั้งตัว ผมลองลงไปนอนเกลือกกลิ้งใหม่อีกรอบแต่นั่นก็ไม่ได้ช่วยอะไร ผมลองค้นหาตัวช่วยที่อาจจะทำให้ดีขึ้นได้แต่ก็ต้องถูกปฏิเสธซ้ำเติม ชิ้นส่วนบางส่วนในตัวผมคงจะหลุดออกมาแบบง่ายๆถ้าใครมาแตะตัวผมตอนนั้น

ผมลองมองออกไปดูท้องฟ้า ฝนทำท่าจะตกลงมาอีกแล้ว

.

รถบนถนนตอนนี้ค่อยๆเคลื่อนตัวอย่างช้าๆเพราะฝนตกหนัก จนแอบคิดว่านี่คงไม่หนีไปจากฝนที่โนอาห์เจอสักเท่าไร ที่ปัดน้ำฝนหน้ารถกำลังทำหน้าที่อย่างขันแข็ง แต่ก็ไม่ช่วยให้มองเห็นทางข้างหน้ามากเท่าไร ผมนึกถึงฉากในหนังเรื่อง Psycho ที่ตัวละครในเรื่องขับรถฝ่าสายฝนพร้อมกับเงินก้อนโตที่แอบยักยอกมา โดยมีปลายทางเป็นความฝันครั้งใหญ่ ผมลองสำรวจในกระเป๋าเงินดูบ้าง มีเหลือแค่พออยู่รอดไปวันๆเท่านั้น ปลายทางล่ะ ผมพยายามลองตั้งสติเพ่งดูอีกที ก็พบแต่สายน้ำที่ถาโถมเข้ามาอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย

ฤดูร้อนจากไปแล้ว ผมเริ่มถอดใจไม่รู้ว่าสุดท้ายจะพาตัวเองไปได้ไกลถึงไหน

.

ตอนนี้ผมรู้แค่ว่านี่เป็นฤดูฝนที่ผมเกลียดที่สุดตั้งแต่เคยมีมา


Just Like the Fambly Cat

14 May 2006

Logic Will Break Your Heart

Hero Reina

เหมือนเห็นภาพย้อนกลับจากปีที่แล้วอีกครั้ง

เปิดฉากอย่างย่ำแย่ จนทำให้ความตั้งใจที่จะปิดฉากเกมสุดท้ายที่สนามมิลเลนเนียมแบบเท่ๆเริ่มริบหรี่ แต่ความเหลือเชื่อมากมายของเกมลูกหนังยังคงดำเนินต่อไป ขอแค่ยังไม่ละทิ้งความหวัง ด้วยโอกาสที่ยังมี เรื่องราวทุกอย่างยังคงเป็นไปได้

พยายามจะบังคับตัวเองให้เอาความคิดแบบนี้มาใช้บ้าง แต่ความคิดขัดขืนในใจยังคงทำงานอย่างขันแข็ง

เกมฟุตบอลถูกจำกัดด้วยเงื่อนไขของเวลาที่แน่นอน
ถ้าเชื่อตาม Death Note เรื่องราวที่ดำเนินไปเรื่อยๆของตัวเราก็มีเวลาจำกัดเหมือนกัน

ต่างกันตรงที่เรายังไม่ได้รู้จุดจบเวลาของตัวเรา

ถ้ามองในแง่ดีเราน่าจะมีเวลาเหลือเฟือในการแก้ไขเรื่องราวต่างๆ อุปสรรคหนักหนาที่คอยขัดขวางก็มีแต่เพียงตัวเราเท่าันั้น

ถ้ามองไปตามตรรกะ จะกำจัดอุปสรรคได้ก็ต้องกำจัดตัวเราออกไป แต่ถ้าตัวเราไม่ใช่ตัวเราแล้วเราจะกลายเป็นใครไปแทน

นึกหวงแหนตัวตนของตนเองขึ้นมาอย่างกระทันหัน

ดังนั้นเพื่อให้ตัวเรายังเป็นตัวเรา อุปสรรคจะยังคงถูกเก็บไว้ จนกว่าจะมีหนทางที่ดีกว่าเข้ามาให้เลือก

หนทางแสนสบายยังคงเดินต่อไปอย่างไม่หยุดยั้ง โดยที่ไม่รู้ตัวเลยว่าช่วงเวลาที่คิดว่าเหลือเฟือนั้นจะหมดลงไปเมื่อไหร่